Season 4

Village to the World Season 4 ปี 2568

โครงการ Village to the World

#SustainableAgenda



ในปี 2568 โครงการ Village to the World Season 4 ยกระดับโมเดลการท่องเที่ยวชุมชนสู่การเป็นกลไกเชิงกลยุทธ์ด้าน ESG และ Impact Investment ภายใต้แนวคิดใหม่ #SustainableAgenda โครงการมุ่งสร้างระบบความร่วมมือแบบยั่งยืน (ESG Partnership for Impact) ระหว่างภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน โดยมี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ 5 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมเป็นพันธมิตรในการพัฒนา 7 ชุมชนต้นแบบ ให้เป็นพื้นที่นำร่องของการท่องเที่ยวที่สามารถวัดผลทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม

กระบวนการดำเนินโครงการ Village to the World #SustainableAgenda

โครงการนี้ถูกออกแบบให้เป็นกลไกเชิงระบบในการเชื่อมโยง ภาคเอกชนที่มีนโยบาย ESG กับ ชุมชนท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ภายใต้กรอบความร่วมมือแบบยั่งยืน (ESG Partnership for Impact) โดยมีกระบวนการดำเนินงาน ดังนี้

กิจกรรมที่ 1 : ประกาศสรรหา/คัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้าน ESG และวิเคราะห์เป้าหมายด้าน ESG ของแต่ละองค์กร

ประกาศสรรหา/คัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้าน ESG

  • มุ่งเน้นบริษัทที่มีนโยบายด้าน ESG ชัดเจน และต้องการขยายผลด้าน Social Impact
  • บริษัทเหล่านี้ต้องมีความพร้อมทั้งในเชิงนโยบาย องค์ความรู้ และทรัพยากรในการร่วมพัฒนาพื้นที่

วิเคราะห์เป้าหมายด้าน ESG ของแต่ละองค์กร

  • พูดคุยเชิงลึกกับทีม ESG ของแต่ละบริษัท เพื่อระบุประเด็น “Material Issues” หรือสาระสำคัญด้านสังคม/สิ่งแวดล้อมที่องค์กรให้ความสำคัญ
  • ใช้ข้อมูลนี้เป็นเกณฑ์ในการ “จับคู่” กับชุมชน
  • สรุปเป็น ESG Agenda จาก 5 บริษัทฯ ได้แก่
    1. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีเป้าหมายการพัฒนาชุมชนภายใต้แนวคิด Digital Skills & Safe Digital Practices
    2. บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) มีเป้าหมายการพัฒนาชุมชนภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
    3. บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีเป้าหมายการพัฒนาชุมชนภายใต้แนวคิดคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
    4. โครงการ Yournique โดย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) มีเป้าหมายการพัฒนาชุมชนภายใต้แนวคิดการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและเศรษฐกิจหมุนเวียน
    5. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด มีเป้าหมายการชุมชนภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและพัฒนาอย่างยั่งยืน

กิจกรรมที่ 2 : ประกาศสรรหา/คัดเลือกชุมชนต้นแบบที่มีความพร้อม

  • เลือกชุมชนที่มีศักยภาพด้านวัฒนธรรม ทรัพยากรท่องเที่ยว และมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่สามารถทำงานร่วมกับภาคเอกชนได้จริง
  • เปิดรับการพัฒนาเชิงระบบในระยะยาว ไม่ใช่แค่กิจกรรมระยะสั้น

กิจกรรมที่ 3 : จับคู่ “บริษัท–ชุมชน” ให้ตรงจุด ตรงโจทย์ และลงพื้นที่และพัฒนาร่วมกัน (Co-Creation)

จับคู่ “บริษัท–ชุมชน” ให้ตรงจุด ตรงโจทย์

  • เชื่อมโยงวิสัยทัศน์ของบริษัทกับจุดแข็งของชุมชน เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ ESG ของทั้งสองฝ่าย
  • ใช้แนวคิด Shared Value + Impact Investment เป็นหลัก
  • โดยจับคู่ความร่วมมือ บริษัท-ชุมชน ได้ดังนี้
    1. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ร่วมพัฒนา 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านแม่สูนน้อย และชุมชนบ้านดอยเวียง จังหวัดเชียงใหม่
    2. บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ร่วมพัฒนาชุมชนบ้านอำเภอ จังหวัดชลบุรี
    3. บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมพัฒนาชุมชนบ้านมุงเหนือ จังหวัดพิษณุโลก
    4. โครงการ Yournique โดย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมพัฒนาชุมชนบ้านป่าแลวหลวง จังหวัดน่าน
    5. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ร่วมพัฒนา 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้างปงสนุก และชุมชนบ้านท่ามะโอ จังหวัดลำปาง

ลงพื้นที่และพัฒนาร่วมกัน (Co-Creation)

  • ทีมภาคเอกชนและชุมชนทำงานร่วมกันผ่านเวิร์กช็อปและการลงพื้นที่จริง
  • ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ในภาคธุรกิจ เช่น การบริหารจัดการ ประสบการณ์ลูกค้า เทคโนโลยี หรือ Storytelling
  • ออกแบบโมเดลความร่วมมือที่สามารถวัดผลทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้จริงในระยะยาว

กิจกรรมที่ 4 : การประชาสัมพันธ์ การตลาด และการส่งเสริมการขยายร่วมกับพันธมิตร เพื่อกระตุ้นการเดินทางเข้าพื้นที่/สร้างยอดขายและสร้างการรับรู้

ผลลัพธ์หลักจากการดำเนินโครงการในพื้นที่ (Key Outputs)

จากการทำงานร่วมกันระหว่าง บริษัทจดทะเบียนฯ – ชุมชนต้นแบบ – ภาครัฐ ภายใต้โครงการ Village to the World #SustainableAgenda ได้ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ดังนี้:

  • 5 โครงการ ESG Tourism ในชุมชน
    • ชุมชนมีแนวทางพัฒนาที่สอดคล้องกับประเด็น ESG ของภาคเอกชน
    • เกิดโครงการเชิงระบบที่บริษัทสามารถติดตาม วัดผล และรายงานผลลัพธ์ในระยะยาวได้
  • 5 เส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่เชื่อมโยง Supply Chain
    • โปรแกรมนำเที่ยวที่สะท้อนตัวตน ทุนวัฒนธรรม และทรัพยากรของแต่ละชุมชน เชื่อมโยง Supply Chain ในพื้นที่ ทั้งที่พัก ร้านอาหาร การเดินทางเข้าสู่พื้นที่

ภารกิจสำคัญของโครงการ (Strategic Missions)

ยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนให้ตอบโจทย์ ESG อย่างเป็นรูปธรรม

  • ออกแบบโมเดลความร่วมมือและการลงทุนที่สามารถวัดผลได้ทั้งด้าน เศรษฐกิจ – สังคม – สิ่งแวดล้อม
  • เปลี่ยนบทบาทของชุมชนจาก “ผู้รองรับนักท่องเที่ยว” สู่ “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์” ขององค์กรธุรกิจ

เปิดกลไกการเปิดเผยข้อมูล ESG อย่างโปร่งใส

  • ส่งเสริมให้ชุมชนมีระบบข้อมูลด้านวัฒนธรรมและทรัพยากรอย่างเป็นระบบ (สอดคล้องกับ Culture|2030 Indicators ของ UNESCO)
  • ให้ภาคเอกชนสามารถใช้ข้อมูลจากการดำเนินงานร่วมกับชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของการรายงานความยั่งยืน (Sustainability Reporting)

ขับเคลื่อนการเติบโตแบบ Win–Win ระหว่างธุรกิจและชุมชน

  • ทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นจะต้องสร้าง “มูลค่าเพิ่ม” ทั้งในระดับชุมชน (ฐานราก) และองค์กรเอกชน (คุณค่าทางแบรนด์และผลลัพธ์ ESG)
  • ขับเคลื่อนผ่าน Value Chain Collaboration ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง

สิทธิประโยชน์สำหรับภาคเอกชน / บริษัทจดทะเบียน และชุมชนต้นแบบ:

สิทธิประโยชน์สำหรับภาคเอกชน / บริษัทจดทะเบียน

“ร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวก พร้อมยกระดับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามแนวทาง ESG อย่างเป็นรูปธรรม ร่วมกับชุมชนต้นแบบทั่วประเทศ”

สิทธิประโยชน์หลัก

  1. ยกระดับ ESG จากนโยบายสู่การลงมือทำ
    เสริมสร้างภาพลักษณ์การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อน ESG อย่างแท้จริง ผ่านการมีส่วนร่วมกับพื้นที่จริง
  1. สร้างนวัตกรรมทางสังคมร่วมกับชุมชน
    • พัฒนาสินค้า บริการ และประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ร่วมกับชุมชน
    • เชื่อมโยงชุมชนสู่ตลาดท่องเที่ยวยั่งยืนและกลุ่มนักเดินทางคุณภาพ
    • เสริมจุดแข็งแบรนด์ในฐานะผู้ “สร้างคุณค่า” ให้สังคม
  1. ขยายภาพลักษณ์สู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจยั่งยืน
    สนับสนุนการสื่อสารเชิงบวกในทุกช่องทางของโครงการ ทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ
  1. เข้าถึงเครือข่ายชุมชนต้นแบบทั่วประเทศ
    ได้รับข้อมูลเชิงลึกและโอกาสขยายความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อน ESG ระยะยาว
  1. เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศการพัฒนาอย่างยั่งยืน
    ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก การท่องเที่ยวยั่งยืน และโมเดลความร่วมมือที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและสังคม

สิทธิประโยชน์สำหรับชุมชนต้นแบบ

ยกระดับชุมชนสู่การเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจในระบบการท่องเที่ยวยั่งยืน เชื่อมต่อกับตลาดคุณภาพและพันธมิตรภาคเอกชนในระดับประเทศ”

สิทธิประโยชน์หลัก

  1. กระดับศักยภาพชุมชนตามแนวทาง ESG
    ได้รับคำแนะนำ เครื่องมือ และการสนับสนุนในการปรับกระบวนการจัดการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม
  1. ร่วมพัฒนาสินค้า บริการ และประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่กับภาคเอกชน
    • สร้างนวัตกรรมจากรากฐานภูมิปัญญาท้องถิ่น
    • ออกแบบแพ็กเกจ/กิจกรรมที่ตอบโจทย์ตลาดคุณภาพสูง
    • เพิ่มรายได้และสร้างโอกาสให้คนในชุมชนทุกช่วงวัย
  1. เพิ่มโอกาสทางการตลาดและการสื่อสาร
    ได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางของ ททท. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างการรับรู้สู่ตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพ
  1. เข้าถึงเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจทั่วประเทศ
    ได้รับการจับคู่กับบริษัทจดทะเบียน และภาคเอกชนที่มีศักยภาพในการร่วมพัฒนาและขยายผลในระยะยาว
  1. เป็นต้นแบบของชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืนระดับประเทศ

PARTENERSHIP